20.ต.ค.2554วันนี้ใครได้ผ่านมาแถวหน้าร้านก็คงจะตกกะใจเล็กน้อยว่าเผลอแผล่บเดียว แค่ 2-3 ชม. เท่านั้นเอง ร้านทองท่าพระก็มีที่กั้นน้ำเป็นที่เชิดหน้าชูตาย่าน ถ.พรานนก เป็นที่เรียบร้อยแล้วใช่ค่ะ... อ่านไม่ผิดแน่ ๆ ... "มีที่กั้นน้ำไว้-เชิดหน้าชูตา" 555ก็ ถ.พรานนก ที่ร้านทองท่าพระ (โต๊ะช่างคลับ) ตั้งอยู่นั้น... แม้จะอยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยามาไม่ไกลนักแต่ก็เป็นพื้นที่เนินสูง แถมหน้าด่านที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นโรงพยาบาลศิริราชซึ่งเป็นอันรู้กันว่า ปล่อยให้น้ำล้นข้ามจุดนี้มามิได้เป็นอันขาด...เข้าจั๋ย ? ;)แถม อาป่ะ อาอี๊ อากง อาอึ้ม ที่เป็นเจ้าถิ่น แต่ละคนอยู่มาไม่ต่ำกว่า 30 ปีก็ต่างการันตีอย่างมั่นใจเต็มร้อยว่า อยู่มาก็ค่อนชีวิตแล้ว ยังไม่เคยเห็นน้ำท่วมพรานนกเลยและจากการสังเกตุอยู่หลายวันหลังจากที่ทางการประกาศให้เฝ้าระวังน้ำท่วมก็แทบไม่เห็นบ้านไหนร้านไหนย่านนี้ ทำที่กั้นน้ำอย่างจริงจังกันสักเจ้านอกจากบ้านที่เห็นได้ชัดว่า มีที่ต่ำกว่าท้องถนน ถึงจะมีที่กั้นน้ำตามกระแสกะเค้าซักหน่อย...ก็เป็นอันมั่นใจเกินกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า พรานนก น้ำไม่ท่วมแน่ ! ...แต่กระนั้นก็ดี... ครั้งนี้ทำให้ผู้เขียนรู้เลยว่ากระแสสื่อที่ยิงข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั้น...มีอิทธิพลกับประชาชนมากแค่ไหนก็ขนาดชาวพรานนกแท้ ๆ ยังมั่นใจว่าน้ำไม่มีวันท่วมแน่นอนแต่เจ๊แมว...แม่ของผู้เขียน ผู้ที่ติดตามกระแสขาวน้ำท่วมนี้ วันละหลาย ๆ รอบก็เกิดอาการกังวล ว่าน้ำจะท่วมร้านข้าพเจ้าวันไหนขึ้นมาก็ได้แล้วเราก็เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แค่ 2 คน (ต้องทำเสียงเล็ก ๆ เวลาพูดด้วยนะ... :D ) จะขนของหนีน้ำทันไหม แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร งานจะทำได้หรือไม่ ฯลฯร้อยแปดพันเก้า ที่เจ๊ของเรา ผู้ซึ่งต้องรับผิดชอบชีวิตลูกน้องอีกเกือบ 10 ชีวิต จะกังวลไปได้จนเมื่อ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ถึงขั้นประกาศปิดร้านเพื่อที่จะเตรียมขนของหนีน้ำไว้ก่อนแต่ก็ด้วยลูกค้าที่เหมือนจะนัดกันมาอย่างไรไม่ทราบก็เลยทำให้เจ๊ของเราต้องระงับแผนหนีน้ำไปชั่วคราว เพื่อรับออเดอร์ก่อน... (- -")จนมาถึงวันนี้ 20.ต.ค.54 น้ำก้อนใหญ่ เข้ามาเยี่ยมถึงกรุงเทพฯ แล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ๊แมวเธอจะตัดสินใจที่จะ......วางใจว่าน้ำไม่ท่วม แล้วใช้ชีวิตลั้ลลา ตามปกติ หรือ...จัดเตรียมตั้งรับสถานการณ์น้ำท่วม แล้วจึงวางใจว่าป้องกันอย่างรัดกุมแล้วแถมมีเปรย ๆ อีกว่าสัปดาห์หน้าอาจประกาศหยุดร้าน 10 วันเพื่อหนีน้ำไปก่อนพอน้ำลงแล้วค่อยมาว่ากัน... เฮ้อ ! ... ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง แม่เรา...วันนี้เช้า เมื่อผู้เขียนตัดสินใจแล้วว่า ปล่อยไปคงไม่ได้การแม้มั่นใจเต็มร้อยว่าน้ำไม่ท่วมที่นี่ แต่ถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ ... กว่าน้ำจะมาจะไป ตอนนั้นสุขภาพจิตคงไปเสียก่อนสิ่งที่ดูแล้วจะเกิดผลกระทบน้อยที่สุด คือ การทำที่กั้นน้ำ สำหรับร้านเราแน่นอนว่าการยอมลงทุนเงินเพียงไม่กี่บาท กับกำลังกายและเวลา 2-3 ชม. มาทำที่กั้นน้ำย่อมดีกว่าการปิดร้านไป 10 วัน เป็นแน่แท้...โจทย์ข้อแรกคือ ... "จะใช้อะไรมากั้น ?"...กระสอบทราย... ก่อง่าย รื้อง่าย ถูกขโมยก็ง่าย...อิฐมวลเบา... แข็งแรง แต่ก่อยาก รื้อยาก แถมต้องใช้ช่างที่เป็นงานและวัสดุสองข้อข้างบน เป็นของที่หายาก ราคาแพงเสียแล้วตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา...หลังจากหาข้อมูลจากอาจารย์กู (กูเกิ้ล) ประมาณไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น...ก็ได้คำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับเรา ... ...ประตูห้องน้ำ PVC ....ข้อดีคือ ก่อง่าย รื้อง่าย ราคาถูก (ข้อหลังนี้สำคัญ...อิอิ)ตัดสินใจได้ปุ๊บ ผู้เขียนก็ซ้อนมอเตอร์ไซด์ช่างเล็กของเราไปร้านสุขภัณฑ์ใกล้บ้านทันทีได้ประตูกลับมา 4 บาน ในราคา บานละ 500 กว่าบาทเฮียเจ้าของร้านอุปกรณ์ใกล้แยกพรานนกน่ารักมากค่ะ แนะนำเรื่องการใช้วัสดุที่ใช้ซีนและอุดรูรั่วใช้อย่างเหมาะกับงานพื้นที่ PVC ส่วนที่ใช้ติดกับพื้นผิวเรียบ เช่นกระจก อลูมิเนียม ให้ใช้ "กาวซิลิโคน" ซีนพื้นที่ PVC ส่วนที่ใช้ติดกับพื้นปูน ให้ใช้ "ปูนยาแนว" ซีนที่หน้าร้านทองท่าพระ นพคุณ (โต๊ะช่างคลับ) จะแบ่งเป็น 2 ห้อง1. โซนห้องทำงานช่าง... ด้านหน้าจะเป็นกระจกใสตลอดแนว จุดที่ควรระวังคือ รอยขอบกระจก ซึ่งซิลิโคนเดิมเริ่มเสื่อมสภาพ น้ำอาจเข้ามาตามรอยนี้ได้ นอกจากนั้นหากน้ำท่วมจริง แรงดันน้ำ อาจทำให้กระจกแตกได้เราจึงใช้ประตู PVC ปิดส่วนนี้ด้วยเพื่อป้องกันปัญหาข้างต้นก่อนติดประตู PVC ก็ยาแนวขอบด้วยกาวซิลิโคนซ่อมส่วนที่ของเดิมเสื่อมสภาพก่อนแล้วปิดประตูทั้งบานลงไป ... เรียบร้อย ...2. โซนหน้าร้าน... ด้านนี้จะเปิดโล่ง ไม่มีผนังมารองรับแผ่นประตูไว้จึงต้องเสริมข้างในด้วย เหล็กฉาก ทั้งที่ผนัง และที่พื้น เพื่อเป็นจุดช่วยรับน้ำหนักผู้เขียนก็ให้ที่ร้านเครื่องมือช่วยตัดเหล็กให้ตามขนาดเลยค่ะ ทั้งชุด 100 กว่าบาทเองช่างต้นมาช่วยเจาะรูที่ผนังและพื้นให้ส่วนช่างอาสาอีกสองคนคือพี่หมึกและอาจารย์ตุ้ย...บ้านใกล้เรือนเคียงฝั่งนี้ต้องใช้ปูนยาแนวช่วยยึดบาน PVC กับปูนไว้ด้วยกันหลายแรงช่วยกัน เพียงไม่กี่ชั่วโมง ที่กั้นน้ำของที่ร้านก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในงบประมาณ 3,000 บาทสำหรับวิธีการสร้างที่กั้นน้ำโดยประตู PVC นั้น หากใครสนใจก็สามารถหาอ่านได้ที่ลิงค์นี้ จะนำไอเดียไปลองทำเหมือนที่ร้านเราบ้างก็น่าสนใจไม่น้อยนะคะ จริง ๆ แล้ว ผู้เขียนก็ยังเชื่อเต็มร้อยว่า ที่ร้านเราน้ำไม่ท่วมหรอกค่ะแต่ที่ตัดสินใจกั้นซะให้มันเอิกเกริกซะอย่างนี้เป็นเพราะเป็นห่วงจิตใจคุณแม่ที่รักและเคารพน้ำจะท่วมหรือไม่...ไม่รู้ที่กั้นน้ำสูตรนี้จะได้ผลไหม...ไม่รู้อีกเหมือนกันรู้แต่...ทำไปแล้ว "แม่สบายใจ" ...เป็นอันจบข่าว !!ใครแถวนี้ผ่านไปผ่านมาต่างก็ยิ้มและบอกว่า...น้ำไม่ท่วมหรอก ๆ แต่ผู้เขียนก็คิดอีกมุมเหมือนกันว่า ... "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย"และใช่ว่าสิ่งต่าง ๆ มันจะเกิดขึ้นเพียงเพราะเราเชื่ออย่างนั้นเสียเมื่อไหร่...ใช่ไหมคะบทถ้านำจะท่วมขึ้นมา ก็หาใครมารับผิดชอบกับความเชื่อนั้นไม่ได้..."กันไว้ ดีกว่าแก้"... โบราณท่านว่าไว้อีกเหมือนกันแต่ครั้นจะไล่อธิบายใครต่อใครว่าทำที่กั้นเอาไว้เพื่อรักษาใจแม่... ...ก็กลัวจะเข้าใจยาก...เลยขอตอบไปง่าย ๆ ว่า "กลัวน้อยหน้า ธ.กสิกร"...ก็ลองดูกสิกรสาขาพรานนกเค้าข่มขวัญเราเสียก่อนสิค้าาาาาาา...แล้วทุกท่านจะเข้าจายยยยยย... ว่าที่มาของประโยคว่า "มีที่กั้นน้ำไว้-เชิดหน้าชูตา" มันเป็นจะอี้เน้อออ... 55555วันนี้เป็นเสร็จภารกิจไปอีกงาน...พรุ่งนี้เตรียมเสบียงไว้ให้แม่ลี้ภัยอีกอย่าง เป็นอันจบโครงการ"สู้เพื่อแม่"ของน้องพิม...... เอ้า ฮึด ! "สู้ โว้ย ! "